วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา (20 กรกฎาคม 2025) บทไตร่ตรองพระวรสาร: ลูกา 10:38–42

 วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา (20 กรกฎาคม 2025)

บทไตร่ตรองพระวรสาร: ลูกา 10:38–42

ในพระวรสารของวันอาทิตย์นี้ เราได้พบกับสองพี่น้อง มารธาและมารีย์ ผู้ต้อนรับพระเยซูเจ้าเข้าสู่บ้านของตน มารธาเป็นแม่บ้านผู้ขยันขันแข็ง เธอมัวแต่ยุ่งกับภารกิจด้านการต้อนรับ ขณะที่มารีย์นั่งอยู่แทบเท้าของพระเยซู ฟังพระวาจาอย่างตั้งใจ
เมื่อมารธาเอ่ยถึงความเหนื่อยล้าของตน พระเยซูจึงตอบด้วยความเมตตาและความชัดเจนว่า

“มารธา มารธา เธอวิตกกังวลกับหลายสิ่งนัก แต่มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่จำเป็น มารีย์เลือกสิ่งที่ดีกว่า และจะไม่มีใครพรากสิ่งนั้นไปจากเธอได้”

หากเราพิจารณาฉากนี้ให้ลึกซึ้ง เราจะพบว่าการกระทำของมารธาเกิดจากความรักและความจริงใจ การรับใช้ของเธอไม่ใช่ความไร้สาระ แต่คือความใส่ใจอย่างแท้จริง เธอแสดงความรักต่อพระเยซูผ่านการรับใช้ด้วยหัวใจ
แต่พระเยซูเจ้าทรงเชิญชวนให้เธอผ่อนพักจากความวุ่นวาย ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เธอทำนั้นผิด หากแต่เพราะพระองค์ต้องการให้หัวใจของเธอได้หยุดพักและพบความสงบในพระองค์

การเชื้อเชิญของพระเยซูในตอนนั้นไม่ใช่ให้ละทิ้งหน้าที่การรับใช้ แต่ให้ตั้งรากฐานของภารกิจเหล่านั้นไว้ในความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับพระองค์ เป็นคำเชื้อเชิญให้อยู่กับพระเจ้า มากกว่าการเร่งรีบทำสิ่งต่าง ๆ เพียงเพื่อผลสำเร็จภายนอก เป็นการให้ความสำคัญกับการ “อยู่ร่วม” มากกว่าการ “ทำให้สำเร็จ”

พระวรสารของวันอาทิตย์นี้ แม้จะสั้น แต่กลับมีสาระสำคัญอย่างลึกซึ้งที่เรามักมองข้ามในชีวิตประจำวันอันวุ่นวายของเรา เช่นเดียวกับมารธา เรามักถูกดึงให้ทำสิ่งต่าง ๆ มากมาย มีภาระและหน้าที่มากมายที่ต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งล้วนมีเจตนาดีทั้งสิ้น แต่ในความเร่งรีบนั้นเอง เราอาจหลงลืมสิ่งที่จำเป็นที่สุดไป นั่นคือ การอยู่กับพระเยซู

การอธิษฐาน การสงบนิ่ง และการใคร่ครวญ ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย แต่เป็นสิ่งจำเป็น เป็นรากฐานที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ และเติมความหมายให้กับภารกิจของเรา หากขาดสิ่งเหล่านี้ แม้การรับใช้ของเราจะเริ่มจากเจตนาดี ก็อาจกลายเป็นเพียงความเร่งรีบวุ่นวายปราศจากพระหรรษทาน

พระวรสารวันนี้ไม่ได้เชื้อเชิญให้เราทอดทิ้งหน้าที่ แต่เชื้อเชิญให้เราหยุดพักและตั้งชีวิตอยู่บนรากฐานของการประทับอยู่ของพระคริสตเจ้า

ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ความเงียบสงบกลายเป็นสิ่งหายาก เราต้องรับมือกับเสียงรบกวนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นอีเมล การแจ้งเตือน การประชุม หรือกำหนดเส้นตายต่าง ๆ แม้ในขณะนิ่งเฉย จิตใจก็ยังเต็มไปด้วยความคิด ความกังวล และรายการสิ่งที่ต้องทำ

แต่ความเงียบไม่ใช่เพียงการไม่มีเสียง หากเป็น “พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์” ที่เราสามารถพบกับพระเจ้าและผู้อื่นได้อย่างแท้จริง เป็นสถานที่ที่ทำให้เราได้กลับมาอยู่กับตัวเอง รับฟังเสียงหัวใจของเรา และเปิดใจต้อนรับพระเจ้า

คำกล่าวที่ว่า “ความเงียบคือทองคำ” ยิ่งมีความหมายในโลกปัจจุบัน ที่เสียงและความเร่งรีบกลายเป็นเรื่องปกติ ความเงียบจึงมิใช่เพียงสิ่งล้ำค่า แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็น เพราะในความเงียบ เราจะพบความกระจ่าง สงบใจ และมีพื้นที่สำหรับการใคร่ครวญลึกซึ้ง ทั้งกับตัวเอง กับผู้อื่น และกับพระเจ้า

ความเงียบไม่เกิดขึ้นเอง แต่ต้องตั้งใจเลือก ต้องอาศัยวินัย การตระหนักรู้ และความปรารถนาอย่างลึกซึ้งที่จะหยุดนิ่ง

“สิ่งที่ดีกว่า” ที่พระเยซูตรัสถึง จึงไม่ใช่การเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่ง แต่คือการเลือกช่วงเวลาแห่งความสงบท่ามกลางความยุ่งเหยิงในชีวิต เป็นคำเชื้อเชิญให้เราหยุด ฟัง และตระหนักว่า พระองค์ทรงอยู่กับเราเสมอ

ท่ามกลางภารกิจและความรับผิดชอบ อย่าปล่อยให้ความเร่งรีบผลักพระเจ้าออกไปจากชีวิต
แต่จง สร้างพื้นที่ให้ความเงียบ และ เปิดใจต้อนรับพระองค์
ในความสงบนั้นเอง พระองค์จะเผยพระองค์ และสันติสุขของพระองค์จะหยั่งรากในใจเรา
เพราะความเงียบ คือสถานที่ที่หล่อเลี้ยงสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น