วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2568

อาทิตย์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา (3 สิงหาคม 2025)

 


อาทิตย์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา (3 สิงหาคม 2025)
บทไตร่ตรองพระวรสาร: ลูกา 12:13-21
โดย คุณพ่อแคลเรนซ์ เดวาดาส

เราอาศัยอยู่ในโลกที่มักจะวัดความสำเร็จจากความมั่งคั่ง ฐานะ และสิ่งของที่ครอบครอง ตั้งแต่วัยเยาว์ เราถูกหล่อหลอมให้ไล่ตามสิ่งที่ "มากขึ้น" — เงินทองที่มากขึ้น บ้านที่ใหญ่ขึ้น รถที่หรูหราขึ้น และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด สังคมสร้างภาพลวงตาว่าความสุขและความมั่นคงอยู่ที่การสะสมสิ่งของให้ได้มากที่สุด

โฆษณาและโซเชียลมีเดียยิ่งกระตุ้นความต้องการนี้ให้รุนแรงขึ้น แทรกซึมลงในความคิดจนเราเริ่มเชื่อว่า “เรายังไม่พอ” เว้นแต่จะมีมากกว่าที่เป็นอยู่ และหากเราซื่อตรงต่อใจตนเอง เราจะพบว่าการไล่ตามสิ่งเหล่านี้มักทำให้เรารู้สึกว่างเปล่า วิตก และไม่สงบใจ

พระวรสารในวันนี้นำเสนออุปมาอุปไมยที่ปลุกเราให้ตื่นจากความหลงผิดทางจิตวิญญาณ ชายคนหนึ่งเข้าหาพระเยซูเพื่อขอให้พระองค์ตัดสินปัญหามรดกในครอบครัว แต่พระเยซูไม่ตอบด้วยการไกล่เกลี่ยแบบกฎหมาย กลับใช้โอกาสนี้เพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่ลึกกว่านั้น นั่นคือ ความมั่นใจผิดๆ ที่มนุษย์มอบให้กับทรัพย์สมบัติ

พระองค์เล่าเรื่องชายผู้มั่งคั่งที่หลังจากได้ผลผลิตมากมาย ก็วางแผนรื้อยุ้งฉางเก่าเพื่อสร้างที่ใหญ่กว่าไว้เก็บสิ่งของไว้ใช้ในอนาคต พร้อมกับบอกตัวเองว่า “จงพักผ่อน กิน ดื่ม และสนุกสนานเถิด”

แต่อุปมานี้สะท้อนให้เห็นถึงความลุ่มหลงในวัตถุที่ทำให้เราหลงลืมสิ่งสำคัญในชีวิต คือความสัมพันธ์กับพระเจ้า และการห่วงใยเพื่อนมนุษย์ พระเยซูตรัสอย่างชัดเจนว่า “ชีวิตของคนเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัพย์สมบัติที่เขามีมากเพียงใด” แต่ขึ้นอยู่กับว่าเรามั่งคั่งในพระเจ้าเพียงใด

เราต้องเข้าใจให้ชัดว่า พระเยซูไม่ได้ประณามคนร่ำรวย แต่ทรงเตือนด้วยความรักว่า ความมั่งคั่งมีอันตรายต่อจิตวิญญาณได้หากเราไม่ระวัง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ทรัพย์สิน แต่อยู่ที่ “ใจ” ที่ปล่อยให้ความโลภฝังรากลึก

เมื่อทรัพย์สินกลายเป็นเจ้านายที่ควบคุมเรา มันจะทำให้เราห่างไกลจากสิ่งที่สำคัญ คือ ความรักต่อพระเจ้า ความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ และการดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมตน ศรัทธา และความใจกว้าง

ชายมั่งคั่งในอุปมาคิดว่าเขามีเวลามากมายที่จะเสวยสุข แต่พระเจ้าตรัสว่า “เจ้าคนโง่เอ๋ย คืนนี้แหละ ชีวิตของเจ้าจะถูกเรียกร้องคืน” ความผิดพลาดของเขาไม่ใช่ความมั่งคั่ง แต่คือความหลงตัวเอง เขาขยายยุ้งฉาง แต่ไม่ขยายหัวใจ เขาเก็บข้าวไว้เต็มฉาง แต่ไม่ได้เปิดใจกว้างรับพระหรรษทาน เขาลืมไปว่า “จิตวิญญาณ” ไม่สามารถอิ่มเอมจากสิ่งของทางโลกได้

ในความเป็นจริง หลายคนหวังอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อครอบครัว แต่กลับติดอยู่ในวังวนของการแสวงหาความสำเร็จ จนไม่รู้ตัวว่าเสียอะไรไปบ้าง เราทำงานหนักขึ้น ใช้เวลาน้อยลงกับคนที่รัก และทุ่มเทให้กับเป้าหมายภายนอกจนลืมชื่นชมความสุขเรียบง่ายรอบตัว ชีวิตเราอาจดูยุ่งตลอดเวลา แต่ใจกลับรู้สึกว่างเปล่า

หากไม่ระวัง ความโลภจะคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบๆ ทำลายทั้งชีวิตและความสัมพันธ์ เราไล่ตาม “มากขึ้น” โดยคิดว่าจะเติมเต็มใจได้ แต่กลับมองข้ามของขวัญล้ำค่าที่มีอยู่แล้ว สุดท้ายเราต้องถามตัวเองว่า “เราได้อะไรกันแน่?”

พระวรสารวันนี้จึงเป็นการเตือนอย่างอ่อนโยนแต่ชัดเจนว่า ความพึงพอใจที่แท้จริงไม่ได้มาจากความมั่งคั่ง แต่จากชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ความเชื่อ และจุดหมายที่มีคุณค่า ทรัพย์สินอาจให้ความสบายชั่วคราว แต่ไม่มีวันตอบสนองความกระหายในจิตวิญญาณได้ ความสงบ ความยินดี และความอิ่มเอมแท้จริงมีได้เมื่อเราดำเนินชีวิตด้วยใจที่มุ่งสู่พระเจ้าและผู้อื่นอย่างแท้จริง.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น