วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 20 เทศกาลธรรมดา
(17 สิงหาคม 2025)
ข้อคิดพระวรสาร: ลูกา 12:49–53
โดย คุณพ่อแคลเรนซ์ เดวาดาส
ในทุกปีในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า (Advent)
เรามักได้ยินถ้อยคำปลุกเร้าของประกาศกอิสยาห์ที่พยากรณ์ถึงการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ว่า
“พระนามของพระองค์จะถูกเรียกว่า... เจ้านายแห่งสันติ” (อสย 9:6)
พระนามนี้มาพร้อมกับพระสัญญาที่ดังก้องผ่านกาลเวลา
เจ้านายแห่งสันติ ไม่ได้เป็นเพียงผู้ปลอบโยนอ่อนโยน
แต่ทรงเป็นตัวแทนแห่งความรักของพระเจ้าที่เยียวยาและคืนดีให้เป็นหนึ่งเดียว
ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความไม่สงบ ความขัดแย้ง และการแตกแยก นิมิตของอิสยาห์ประกาศถึงความหวัง
นั่นคือ สันติที่ฟื้นฟู สันติที่คืนดี และสันติที่เปลี่ยนแปลงชีวิต
แต่พระวรสารวันนี้กลับดูเหมือนขัดแย้งกับคำพยากรณ์นั้น
พระเยซูเจ้าตรัสเองว่า
“ท่านทั้งหลายคิดหรือว่า เรามาเพื่อนำสันติภาพมาสู่แผ่นดิน? ไม่ใช่เลย เราบอกท่านว่า แต่เป็นการแตกแยกต่างหาก”
ในเบื้องต้น
ถ้อยคำนี้เหมือนจะขัดแย้งกับพระสัญญาของอิสยาห์
แต่แท้จริงแล้วพระเยซูเจ้ากำลังเผยความจริงที่ลึกกว่า
สันติที่พระองค์ประทานมิใช่ความสงบเงียบฉาบฉวยหรือกลมกลืนอย่างตื้นเขิน
แต่เป็นสันติที่เผชิญหน้ากับบาป เปิดโปงความเท็จ และเรียกร้องให้กลับใจ
สันติของพระคริสต์มิใช่การหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
แต่คือการยอมรับความจริง แม้บางครั้งจะก่อให้เกิดการแบ่งแยก
พระวรสารของพระองค์เจาะลึกความลวง แยกความสว่างออกจากความมืด
ความยุติธรรมออกจากความอยุติธรรม ความจริงออกจากความเท็จ
สันติในลักษณะนี้ไม่ได้ได้มาโดยง่าย แต่มันต้องการความกล้าหาญ
ความมั่นคงในความเชื่อ และบางครั้งก็ต้องยอมรับการแตกแยก
เพื่อเห็นแก่เอกภาพอันแท้จริงในพระเจ้า
สำหรับยุคของเรา ข้อความนี้ยิ่งมีความเร่งด่วน
เรามีชีวิตอยู่ในวัฒนธรรมที่มักถูกครอบงำโดยวัตถุนิยม ปัจเจกนิยม และสัมพัทธนิยม
สิ่งเหล่านี้กัดกร่อนความเมตตา ความถ่อมตน และความซื่อสัตย์ การแสวงหาความมั่งคั่ง
เกียรติยศ และอำนาจ มักปิดเสียงความจริงและบิดเบือนความชัดเจนทางศีลธรรม
ความโลภทำให้เรามองไม่เห็น จนยอมรับการหลอกลวงเป็นเรื่องธรรมดา
และมองว่าความเห็นแก่ตัวเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อความจริงถูกบิดเบือน
จิตสำนึกก็ถูกทำให้หม่นหมอง และสันติก็เป็นไปไม่ได้
การจะกลับคืนสู่สันติที่พระคริสต์ประทาน
เราต้องกลับมาหาความจริงเสียก่อน
นั่นหมายถึงการตรวจสอบเจตนาของตนเองด้วยความถ่อมใจ
การละทิ้งรูปเคารพแห่งความครอบครองและความทะเยอทะยาน และการค้นพบอีกครั้งว่าความสมบูรณ์แท้จริงไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่เราครอบครอง
แต่อยู่ที่การดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์ ความสุจริต ความซื่อสัตย์ และการรับใช้
คือรากฐานของสันติในพระคริสต์
การติดตามพระเยซูในวันนี้ไม่ใช่เรื่องสะดวกสบายเสมอไป
บ่อยครั้งมันหมายถึงการว่ายทวนกระแส ต่อต้านหนทางง่ายๆ แห่งการตามคนส่วนใหญ่
และเลือกเส้นทางแคบของความจริง ความรัก และการเสียสละ แต่ในทางเลือกนั้นเอง
เราจะพบเสรีภาพลึกสุดและสันติแท้จริง
เจ้านายแห่งสันติทรงเรียกเรามากกว่าความสบาย
พระองค์ทรงเรียกเราให้เปลี่ยนแปลง สันติของพระองค์ไม่ใช่การไม่มีความขัดแย้ง
แต่คือการมีแสงสว่างของพระเจ้าอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งนั้น
และเมื่อเราเลือกพระองค์ เราจะพบชีวิตที่ไม่ถูกสร้างบนความสะดวกสบายชั่วคราว
แต่ตั้งอยู่บนความหมายอันนิรันดร
ศรัทธาที่แท้จริงในพระเยซูไม่ได้เกิดจากความสะดวกสบาย
แต่พิสูจน์ได้ด้วยความมุ่งมั่นมั่นคง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น