วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

 

สมโภชพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล (23 พฤศจิกายน 2025)

พระวรสาร: ลูกา 23:35–43
โดย Fr. Clarence Devadass

วันนี้ เรามารวมตัวกันด้วยจิตตารมณ์แห่งความสง่าและความชื่นชมยินดีเป็นพิเศษ เนื่องในสมโภชพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล ซึ่งปีนี้มีความหมายลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะเป็นวาระครบรอบ 100 ปี ของการสถาปนาสมโภชนี้โดยสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 เมื่อปี ค.ศ.1925

ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา โลกของเราได้เห็นลัทธิอุดมการณ์เกิดขึ้นและล่มสลาย ประเทศต่าง ๆ เจริญรุ่งเรืองแล้วก็เสื่อมถอย ผู้นำมากมายผ่านเข้ามาและจากไป แต่ พระราชาเพียงองค์เดียวผู้ยืนหยัดมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง คือพระคริสตเจ้า
พระอำนาจของพระองค์ยังคงเกี่ยวข้องกับโลกทุกยุคสมัย และไม่เคยหมดความหมายเลย

แม้วันนี้ โลกของเรายังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความสับสนทางวัฒนธรรม และความแตกแยก เสียงต่างๆ พยายามเรียกร้องให้เรายอมจำนนและติดตาม แต่พระศาสนจักรเชิญเราให้ยกดวงตาขึ้นเหนือสิ่งเหล่านี้ และเพ่งมองไปยัง พระราชานิรันดร ผู้ประทับบนราชบัลลังก์แห่งไม้กางเขน และทรงสวมมงกุฎแห่งความรัก  พระวรสารนำเราไปยังเชิงไม้กางเขน—ราชบัลลังก์ของพระคริสตเจ้า  ฉากในพระวรสารเต็มไปด้วยความย้อนแย้ง ประชาชน ผู้นำที่เยาะเย้ย ทหารที่เย้ยหยัน และอาชญากรคนหนึ่งต่างมองดูพระเยซูเจ้าอย่างดูแคลน ป้ายเหนือพระเศียรที่ตั้งใจเขียนเพื่อดูหมิ่นว่า
นี่คือกษัตริย์ของชาวยิว” กลับกลายเป็น การประกาศความจริงของพระเจ้า

พระเยซูทรงเปิดเผยความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ ไม่ใช่ด้วยการช่วยตัวเองให้พ้นจากความทรมาน แต่ด้วย การทรงยอมอยู่บนกางเขนเพราะรักมนุษย์ทุกคน
อาณาจักรของพระองค์ไม่ตั้งอยู่บนอำนาจบังคับ แต่ตั้งอยู่บน พระเมตตา
พระราชอำนาจของพระองค์ไม่ใช่การหลบหนีทุกข์ แต่คือ การแบกทุกข์เพื่อไถ่มนุษย์

ท่ามกลางความมืดนั้น มีแสงหนึ่งส่องประกายอย่างงดงาม— คือคำอธิษฐานของโจรกลับใจ:
พระเยซูเจ้าข้า เมื่อพระองค์เสด็จสู่พระอาณาจักรของพระองค์ ขอทรงระลึกถึงข้าพเจ้าเถิด”

เขามองเห็นความจริงที่คนอื่นมองไม่เห็น ไม่ใช่พระเมสสิยาห์ที่ล้มเหลว แต่เป็น พระมหากษัตริย์ผู้ทรงไถ่กู้
และพระเยซูเจ้าทรงตอบด้วยพระทัยกว้างใหญ่ของกษัตริย์แท้จริงว่า: วันนี้ ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์”

ในประโยคนี้เอง หัวใจของพระอาณาจักรพระคริสต์เจ้าถูกเปิดเผยออกมา—
พระราชาแห่ง ความกรุณา การให้อภัย และความหวังนิรันดร

แต่การประกาศนี้จะมีความหมายได้อย่างไร หากไม่สัมผัสชีวิตของเรา?

การให้พระคริสต์เจ้าเป็นกษัตริย์ในชีวิตประจำวันหมายถึงอะไร?

1. ให้ความจริงของพระองค์นำทางเรา

ต้องใช้ความกล้าหาญในการยืนหยัดในความถูกต้อง ไม่ประนีประนอมกับค่านิยมที่บิดเบือน และแสวงหาปรีชาญาณมากกว่าความสบายใจ

2. ให้ความรักของพระองค์กำกับความสัมพันธ์ของเรา

อาณาจักรของพระเยซูคืออาณาจักรแห่งความรักและความเมตตา
การเลือกให้อภัยแทนการผูกโกรธ
เลือกความอดทนแทนความหงุดหงิด
เลือกการให้แทนการยึดติด
ทำให้พระองค์ได้ครองใจเรา

3. มอบความกลัวและความกังวลไว้กับพระองค์

เรามักยึดติดกับความกังวลต่าง ๆ แต่พระคริสต์ผู้เป็นราชาเชิญเราให้วางใจ เหมือนโจรกลับใจที่มอบวาระสุดท้ายของชีวิตไว้ในพระหัตถ์พระเยซูเจ้า

4. ดำเนินชีวิตด้วยความหวัง

เมื่อเราดำเนินชีวิตด้วยความหวัง เราก็เป็นพยานถึงพระอาณาจักร เป็นเทียนที่ส่องแสงถึงความหมายแท้จริงที่โลกกำลังโหยหา

บทสรุป

ในสมโภชพระคริสตเจ้ามหากษัตริย์นี้
ขอให้ ความจริงของพระองค์ดลใจเรา
ความรักของพระองค์แปรเปลี่ยนเรา
สันติของพระองค์หนุนกำลังเรา
และความหวังของพระองค์พาเราก้าวเดินต่อไป

เมื่อเราเข้าสู่ปีพิธีกรรมใหม่ ขอให้เรามั่นใจว่า
พระราชาผู้ทรงครองตลอดนิรันดร์ ยังทรงเดินเคียงข้างเราทุกวัน

พระคริสต์เจ้า กษัตริย์ของเรา—เมื่อวาน วันนี้ และตลอดไป
อาเมน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น