สมโภชพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล (23
พฤศจิกายน 2025)
พระวรสาร: ลูกา 23:35–43
โดย Fr. Clarence Devadass
วันนี้
เรามารวมตัวกันด้วยจิตตารมณ์แห่งความสง่าและความชื่นชมยินดีเป็นพิเศษ
เนื่องในสมโภชพระเยซูเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
ซึ่งปีนี้มีความหมายลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะเป็นวาระครบรอบ 100 ปี ของการสถาปนาสมโภชนี้โดยสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่
11 เมื่อปี ค.ศ.1925
ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา
โลกของเราได้เห็นลัทธิอุดมการณ์เกิดขึ้นและล่มสลาย ประเทศต่าง ๆ
เจริญรุ่งเรืองแล้วก็เสื่อมถอย ผู้นำมากมายผ่านเข้ามาและจากไป แต่ พระราชาเพียงองค์เดียวผู้ยืนหยัดมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
คือพระคริสตเจ้า
พระอำนาจของพระองค์ยังคงเกี่ยวข้องกับโลกทุกยุคสมัย
และไม่เคยหมดความหมายเลย
แม้วันนี้
โลกของเรายังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความสับสนทางวัฒนธรรม และความแตกแยก เสียงต่างๆ
พยายามเรียกร้องให้เรายอมจำนนและติดตาม
แต่พระศาสนจักรเชิญเราให้ยกดวงตาขึ้นเหนือสิ่งเหล่านี้ และเพ่งมองไปยัง พระราชานิรันดร
ผู้ประทับบนราชบัลลังก์แห่งไม้กางเขน และทรงสวมมงกุฎแห่งความรัก พระวรสารนำเราไปยังเชิงไม้กางเขน—ราชบัลลังก์ของพระคริสตเจ้า ฉากในพระวรสารเต็มไปด้วยความย้อนแย้ง ประชาชน
ผู้นำที่เยาะเย้ย ทหารที่เย้ยหยัน และอาชญากรคนหนึ่งต่างมองดูพระเยซูเจ้าอย่างดูแคลน
ป้ายเหนือพระเศียรที่ตั้งใจเขียนเพื่อดูหมิ่นว่า
“นี่คือกษัตริย์ของชาวยิว” กลับกลายเป็น
การประกาศความจริงของพระเจ้า
พระเยซูทรงเปิดเผยความเป็นกษัตริย์ของพระองค์
ไม่ใช่ด้วยการช่วยตัวเองให้พ้นจากความทรมาน แต่ด้วย การทรงยอมอยู่บนกางเขนเพราะรักมนุษย์ทุกคน
อาณาจักรของพระองค์ไม่ตั้งอยู่บนอำนาจบังคับ แต่ตั้งอยู่บน พระเมตตา
พระราชอำนาจของพระองค์ไม่ใช่การหลบหนีทุกข์ แต่คือ การแบกทุกข์เพื่อไถ่มนุษย์
ท่ามกลางความมืดนั้น
มีแสงหนึ่งส่องประกายอย่างงดงาม— คือคำอธิษฐานของโจรกลับใจ:
“พระเยซูเจ้าข้า เมื่อพระองค์เสด็จสู่พระอาณาจักรของพระองค์
ขอทรงระลึกถึงข้าพเจ้าเถิด”
เขามองเห็นความจริงที่คนอื่นมองไม่เห็น
ไม่ใช่พระเมสสิยาห์ที่ล้มเหลว แต่เป็น พระมหากษัตริย์ผู้ทรงไถ่กู้
และพระเยซูเจ้าทรงตอบด้วยพระทัยกว้างใหญ่ของกษัตริย์แท้จริงว่า: “วันนี้ ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์”
ในประโยคนี้เอง หัวใจของพระอาณาจักรพระคริสต์เจ้าถูกเปิดเผยออกมา—
พระราชาแห่ง ความกรุณา การให้อภัย และความหวังนิรันดร
แต่การประกาศนี้จะมีความหมายได้อย่างไร
หากไม่สัมผัสชีวิตของเรา?
การให้พระคริสต์เจ้าเป็นกษัตริย์ในชีวิตประจำวันหมายถึงอะไร?
1. ให้ความจริงของพระองค์นำทางเรา
ต้องใช้ความกล้าหาญในการยืนหยัดในความถูกต้อง
ไม่ประนีประนอมกับค่านิยมที่บิดเบือน และแสวงหาปรีชาญาณมากกว่าความสบายใจ
2. ให้ความรักของพระองค์กำกับความสัมพันธ์ของเรา
อาณาจักรของพระเยซูคืออาณาจักรแห่งความรักและความเมตตา
การเลือกให้อภัยแทนการผูกโกรธ
เลือกความอดทนแทนความหงุดหงิด
เลือกการให้แทนการยึดติด
ทำให้พระองค์ได้ครองใจเรา
3. มอบความกลัวและความกังวลไว้กับพระองค์
เรามักยึดติดกับความกังวลต่าง ๆ
แต่พระคริสต์ผู้เป็นราชาเชิญเราให้วางใจ เหมือนโจรกลับใจที่มอบวาระสุดท้ายของชีวิตไว้ในพระหัตถ์พระเยซูเจ้า
4. ดำเนินชีวิตด้วยความหวัง
เมื่อเราดำเนินชีวิตด้วยความหวัง เราก็เป็นพยานถึงพระอาณาจักร
เป็นเทียนที่ส่องแสงถึงความหมายแท้จริงที่โลกกำลังโหยหา
บทสรุป
ในสมโภชพระคริสตเจ้ามหากษัตริย์นี้
ขอให้ ความจริงของพระองค์ดลใจเรา
ความรักของพระองค์แปรเปลี่ยนเรา
สันติของพระองค์หนุนกำลังเรา
และความหวังของพระองค์พาเราก้าวเดินต่อไป
เมื่อเราเข้าสู่ปีพิธีกรรมใหม่
ขอให้เรามั่นใจว่า
พระราชาผู้ทรงครองตลอดนิรันดร์ ยังทรงเดินเคียงข้างเราทุกวัน
พระคริสต์เจ้า กษัตริย์ของเรา—เมื่อวาน วันนี้
และตลอดไป
อาเมน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น