วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568

 

วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (31 สิงหาคม 2025)

การรำพึงพระวรสารวันอาทิตย์: ลูกา 14:1, 7–14
โดย คุณพ่อ Clarence Devadass

พระวรสารวันนี้จากลูกาบทที่ 14 พาเราเข้าสู่บรรยากาศของงานเลี้ยง และไม่ใช่เพียงงานเลี้ยงธรรมดา แต่เป็นงานเลี้ยงที่เปิดเผย หัวใจของพระเจ้า และท่าทีที่พระองค์ทรงปรารถนาให้ประชากรของพระองค์มีต่อกันและกัน

เมื่อพระเยซูเจ้าประทับร่วมโต๊ะกับฟาริสีคนสำคัญ พระองค์ทอดพระเนตรเห็นแขกผู้มาร่วมงานต่างแย่งชิงเก้าอี้ที่ดีที่สุด พระองค์จึงเล่าอุปมาให้ฟังว่า:

เมื่อท่านถูกเชิญไปงานเลี้ยง จงไปนั่งในที่ต่ำสุด … เพราะผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ส่วนผู้ที่ถ่อมตนลงจะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น”

นี่มิใช่เพียงคำแนะนำเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร แต่เป็น ความจริงทางจิตวิญญาณ ที่กระทบถึงแก่นแท้ของความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า และระหว่างเรากับเพื่อนมนุษย์

ความถ่อมตน ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นพลังที่อยู่ในกรอบของวินัย ไม่ใช่การดูถูกตนเอง แต่เป็นความซื่อตรงในการมองเห็นตัวเองตามความเป็นจริง และไม่ใช่ความเฉื่อยชา แต่คือการเลือกที่จะยกผู้อื่นขึ้น โดยไว้วางใจว่าพระเจ้าทรงเห็นและทรงให้เกียรติผู้ต่ำต้อย

ในโลกปัจจุบัน ความถ่อมตนมักถูกเข้าใจผิด เรามีวัฒนธรรมที่ยกย่องความโดดเด่น ความสำเร็จ และการโฆษณาตัวเอง สื่อสังคมออนไลน์เชื้อเชิญเราให้สร้างภาพลักษณ์เพื่อเรียกเสียงชื่นชม ความสำเร็จถูกวัดจากการไต่เต้าขึ้นสูง มีผู้ติดตามมากมาย หรือทำเสียงของเราดังกว่าคนอื่น

แต่พระเยซูเจ้ากลับพลิกตรรกะนี้กลับด้าน พระองค์บอกเราว่า “ทางขึ้นแท้จริงคือการก้าวลงต่ำ” เส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่คือการรับใช้ เกียรติแท้จริงไม่ได้มาจากการยกตน แต่จาก ความถ่อมตน

ความถ่อมตนไม่ใช่เพียงการมองตนเอง แต่คือการ มองเห็นคุณค่าของผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่โลกมักมองข้าม เป็นการก้าวถอยลงเพื่อให้คนอื่นก้าวขึ้น เป็นการฟังมากกว่าพูด เป็นการให้มากกว่ารับ เป็นความรักที่ไม่หวังผลตอบแทน

พระเยซูเจ้าทรงเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์ พระองค์แม้ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ก็ไม่ทรงยึดติดกับศักดิ์ศรีความเป็นพระ แต่ทรงรับสภาพเป็นผู้รับใช้: ทรงล้างเท้า, เสวยร่วมกับคนชายขอบ, และถึงกับสละพระชนม์บนไม้กางเขน การกลับคืนพระชนมชีพคือถ้อยแถลงของพระเจ้าว่า ความถ่อมตนไม่สูญเปล่า ผู้ที่ถ่อมตนจะได้รับการยกย่อง”

แล้วสิ่งนี้หมายความอย่างไรสำหรับเรา?

  • มันเชิญชวนเราให้กลับมามองลึกในใจตนเองว่า

เรากำลังมุ่งหาการยอมรับ หรือมุ่งให้การรับใช้?
เรากำลังสร้างเวทีเพื่อยกตน หรือสร้างคนรอบข้างให้เติบโต?
เราเลือกคบเพียงผู้ที่มีประโยชน์กับเรา หรือเรายื่นมือไปหาผู้ที่ต้องการเรา?

และยังเรียกร้องให้เรา ดำเนินชีวิตแห่งความถ่อมตนในทุก ๆ วัน ทั้งในบ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน และวัดของเรา คือให้การรับฟังต้องมาก่อน และการพูดมาทีหลัง เลือกนั่งที่ต่ำ ไม่ใช่เพราะเราดูถูกตัวเอง แต่เพราะเราวางใจให้พระเจ้าเป็นผู้ยกเราขึ้นในเวลาของพระองค์

พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า การเป็นศิษย์มิใช่เรื่องของความภาคภูมิใจ แต่คือความถ่อมตน มิใช่เรื่องของฐานะ แต่คือการรับใช้ มิใช่การยกตนขึ้น แต่คือการมอบความรักอย่างเสียสละ

นี่คือ งานเลี้ยงที่พระองค์เชิญเราเข้าร่วม งานเลี้ยงที่ผู้ถ่อมตนจะได้รับเกียรติ ผู้ถูกมองข้ามจะได้รับการต้อนรับ และพระเจ้าเองคือเจ้าภาพ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น